ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก



จัดอันดับ 30 บริษัทมีเดีย ที่มีรายได้มากที่สุดในโลก


top 30 media corp
จากรายงาน “Top Thirty Global Media Owners” ของ ZenithOptimedia The ROI Agency ระบุว่า ปี 2015  เป็นปีที่การใช้จ่ายเพื่อการโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก  จากการ spending ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในสื่อทุกประเภท มี 19% ที่ใช้จ่ายผ่านสื่อดิจิทัลค่ายใหญ่อย่าง Google, Facebook, Baidu, Yahoo และ Microsoft
“Top Thirty Global Media Owners” เป็นรายงานที่จัดอันดับสุดยอดบริษัทเจ้าของมีเดียตามรายได้ในปี 2013  (เป็นปีล่าสุดที่มีข้อมูลตัวเลขครบถ้วน และสอดคล้องกันในทุกบริษัทที่เป็น publicly-listed) เป็นรายได้ที่รวบรวมจากการโฆษณาในสื่อทุกแขนงตั้งแต่สิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ดิจิทัล ไปจนถึง ‘street furniture’
ไปดูกันว่ามี ‘บริษัทมีเดียยักษ์ใหญ่’ เจ้าไหนที่ติดอยู่ใน Top 30 กันบ้าง และแต่ละค่ายเป็นเจ้าแห่งสื่อแขนงไหน ซึ่ง ranking นี้สามารถเป็นตัวชี้วัดเทรนด์ของการใช้สื่อในอนาคตได้เป็นอย่างดี

30. Time Inc. — $2.87 billion (101,511 ล้านบาท)

ก่อนหน้านี้ Time Inc. เคยเป็นแมกกาซีนภายใต้บริษัทแม่ Time Warner (เจ้าของ HBO, Warner brothers) แต่แยกออกมาลุยเดี่ยวเมื่อ มิ.ย. 2014 แต่อย่างไรก็ตามรายได้ของ Time Inc. ในช่วงปี 2011-2015 ลดลงโดยเฉลี่ยถึง 4.1%
13388811_1152571221431464_452940784_o

29. Yomiuru Shimbun Holdings — $2.88 billion (101,865 ล้านบาท)

คอร์เปอร์เรทมีเดียในญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์รายวันเจ้าใหญ่ และยังเป็นหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ด้วยยอดตีพิมพ์กว่าวันละ 9 ล้านฉบับ นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ข่าวญี่ปุ่นที่พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ “The Japan New” มีสัดส่วนการถือหุ้น 14.6%  ใน Nippon TV, Chukoron-Shinsha (publishing group) และ ทีมเบสบอล Yomiuri Giants
index_img_01_sp

28. ProSiebenSat.1 — $2.91 billion (102,926 ล้านบาท)

เจ้าของ 15 สถานีโทรทัศน์ใน เยอรมนี, ออสเตรีย และสวิสเซอร์แลนด์ ที่เข้าถึง 42 ล้านครัวเรือนในภูมิภาค อีกทั้งบริษัทกำลังมุ่งพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลของตัวเองให้เติบโต ซึ่งปีที่ผ่านมารายได้กว่า 26% ก็มาจากช่องทางดิจิทัล
Signboard_ProSiebenSat.1_TV_Deutschland_Unterföhring_DE_2010-06-09

27. Gannett — $2.95 billion (104,341 ล้านบาท)

บริษัทเจ้าของหนังสือพิมพ์รายวัน 93 หัวในสหรัฐอเมริกา และอีกกว่า 400 สิ่งพิมพ์อื่นๆ นอกจากจะทำธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์แล้ว Gannett ยังเป็นเจ้าของอสังหาฯกว่า 150 แห่งในสหราชอาณาจักร
ZenithOptimedia คาดการณ์ว่าในปีที่ผ่านมา  Gannett มีเงินสดหมุนเวียนอยู่ในบริษัทกว่า $200 ล้านเหรียญ เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าซื้อกิจการเพื่อขยายอาณาจักร และเป็นปีที่ Gannett  ได้เข้าไปซื้อหุ้นของ Romanes Media Group ซึ่งครอบคลุมไปถึงบริษัทสื่อย่อยๆอีกหลายบริษัท เช่น Texas-New Mexico Newspapers Partnership, และ Journal Media Group.
gannett-and-usa-today-headquarters-in-mclean-virginia

26. Hubert Burda Media —$3.05 billion (107,878 ล้านบาท)

บริษัทมีเดียในเยอรมนีเป็นเจ้าของแมกกาซีน 93 หัวในประเทศ และอีก 320 หัวในต่างประเทศ ซึ่งก็เป็นแมกกาซีนดังที่เรารู้จักกันดีอย่าง Elle, Harper’s Bazaar, Burda Style, In Style เป็นต้น
hubert_burda_media-2

25. Fuji Media Holdings — $3.23 billion (114,245 ล้านบาท)

เจ้าของมีเดียรายใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ควบคุมเครือข่ายสถานีวิทยุและโทรทัศน์ Fuji และ Nippon Broadcasting System ทั่วประเทศญี่ปุ่น จากการคาดการณ์ของ ZenithOptimedia รายได้ของ Fuji Media Holdings ในปี 2014 น่าจะสูงถึง $3.274 พันล้านเหรียญ
1280px-Fuji_TV_headquarters_and_Aqua_City_Odaiba_-_2006-05-03_edit

24. ITV — $3.33 billion (117,782 ล้านบาท)

ITV คือบริษัทเครือข่าย commercial broadcaster ที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร ด้วยการเป็นเจ้าของช่องกว่า 15 ช่องรายการ นอกจากนี้ยังถือหุ้น 50% ใน Digital TV Services Freesat  และ 14.3% ใน YouView มาในส่วนของบริษัทผู้ผลิตรายการนั้น ITV ก็ถือหุ้นของ ITN อยู่ถึง 40%
itv_debate_02

23. Mediaset — $3.39 billion (119,904 ล้านบาท)

Mediase เป็นบริษัท commercial broadcaster ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี ควบคุมการดำเนินรายการในช่อง Canale 5, Italia 1, Rete 4, Boing, และ Cartoonito และ Mediase  ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดใน MEC สถานีโทรทัศน์เจ้าดังในสเปนอีกด้วย 
*Mediase  ก่อตั้งในช่วงปี 1970s โดยนายกรัฐมนตรีอิตาลี ‘Silvio Berlusconi’
image

22. Axel Springer — $3.39 billion (119,904 ล้านบาท)

เจ้าของบริษัทสื่อหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น หนังสือพิมพ์, แมกกาซีน, สถานีวิทยุ และช่องทีวี รวมถึงเว็บไซต์อีกหลายเว็บที่กระจายอยู่ใน 35 ประเทศ ซึ่งหนังสือพิมพ์หัวดังๆของ Axel Springer B.Z., Bild, และ Die Welt
บริษัทแม่ของ Axel Springer ตั้งอยู่ในเยอรมนี และในช่วงกันยายนของปีที่ผ่านมา Axel Springer ได้เข้าซื้อหุ้นจากบริษัทเจ้าของเว็บไซต์ข่าวชื่อดังระดับโลกอย่าง Business Insider ในสัดส่วน 88% คิดเป็นเงินกว่า $343 ล้านเหรียญ หรือ 1.2 หมื่นล้านบาท ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของ Axel Springer ใน Business Insider สูงขึ้นเป็น 97%
axelspringer

21. JCDecaux — $3.74 billion (132,283 ล้านบาท)

JCDecaux มีบริษัทแม่ตั้งอยู่ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าของสื่อโฆษณา outdoor รายใหญ่ที่สุดในโลกที่มีพื้นที่ป้ายโฆษณามากกว่า 1 ล้าน panel  และอีกกว่าครึ่งล้าน panel บน “street furniture”(ทุกสื่อตามท้องถนนและริมถนน รวมทั้งบนรถโดยสารด้วย)
ในปี 2015 JCDecaux ได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัทมีเดียใหญ่ๆหลายแห่งอย่าง  Continental Outdoor Media 70% , Eye Catcher Media 70% และเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของ CEMUSA
About-JCDecaux

20. Hearst Corporation —$4 billion (141,480 ล้านบาท)

เฉพาะในสหรัฐอเมริกา Hearst เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์รายวัน 15 ฉบับ, แมกกาซีนดังอีก 21 หัว อาทิ Cosmopolitan, Esquire, the San Francisco Chronicle  รวมถึงสถานีโทรทัศน์ 30 แห่งในสหรัฐอเมริกาและเป็นพาร์ทเนอร์กับสถานี ABC และ NBC และยังมีธุรกิจหนังสือพิมพ์และแมกกาซีนกว่า 300 หัวกระจายอยู่ทั่วโลก
botd_hearst_tower_02

19. CCTV — $4.08 billion (144,309 ล้านบาท)

CCTV หรือ China Central Television เป็นสถานีกระจายเสียงวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติของจีน ซึ่งมีช่องรายการที่เป็น free-to-air channels อยู่ 21 ช่อง และในส่วนของ pay-TV channels มีอยู่ 19 ช่อง และยังมีช่องรายการที่เป็นภาษา อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน รัสเซีย เกาหลี และ อาราบิก มีอยู่ 10 ช่อง
cctv_beijing_oma_220307_12

18. Asahi Shimbun Company — $4.12 billion (145,724 ล้านบาท)

Asahi Shimbun คือหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับ 2 รองจาก The Yomiuri Shimbun (อันดับที่ 29) แต่ทั้งนี้บริษัท Asahi Shimbun เป็นเจ้าของแมกกาซีนหัวดังในญี่ปุ่นถึง 25 หัว และถือหุ้น 24.83% อยู่ใน TV Asahi 
44223

17. Time Warner — $4.57 billion (161,640 ล้านบาท)

Time Warner  บริษัทผู้ผลิตรายการและช่องโทรทัศน์เจ้าดังในสหรัฐอเมริกาที่ปัจจุบันแยกบริหารออกเป็น 3 ขาหลักๆ ได้แก่ Turner Broadcasting System, HBO และ Warner Bros. Entertainment
ซึ่งปีนี้ Time Warner ล่วงลงมา 9 อันดับ จากการจัดอันดับของ ZenithOptimedia เนื่องจากปีที่แล้ว Time Warner ปักธงอยู่ที่อันดับ 8 และสาเหตุหนึ่งที่ล่วงนั้นมาจากการแยกตัวของ Time Inc. (อันดับ 30) ในปี 2014 
16-time-warner--457-billion-in-media-revenue.jpg

16. Microsoft — $4.58 billion (161,994 ล้านบาท)

Microsoft ทำรายได้จากพื้นที่สื่อโฆษณาได้ 5% จากรายได้ทั้งหมด โดยขายพื้นที่โฆษณาผ่านผลิตภัณฑ์ตัวท็อปๆของบริษัทอย่าง Bing, Skype, Xbox Live gaming และมีเดียแพลตฟอร์มอื่นๆ
ZenithOptimedia รายงานว่าตั้งแต่ช่วงปี 2012-2015 รายได้ของ Microsoft จากการเก็บค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 12.5% ต่อปี ตามอัตราการเติบโตของตลาดโฆษณาบนอินเตอร์เน็ต ซึ่งโตเฉลี่ยอยู่ที่ 17.9%
17-microsoft--458-billion-in-media-revenue

15. Yahoo — $4.62 billion (163,409 ล้านบาท)

Yahoo เสิร์ชเอนจิ้นยอดนิยมบนเว็บบราวเซอร์ Firefox ที่มีรายได้จากการเก็บค่าโฆษณาในปี 2015 สูงถึง 42% จากรายได้รวมทั้งหมด ซึ่งในส่วนของ Display advertising ในเว็บไซต์หลักนั้น เป็นส่วนที่ทำรายได้จากการโฆษณาได้มากที่สุด ตามด้วยหน้าเว็บไซต์ที่เป็นส่วนของ third-party ที่สร้างรายได้ในการโฆษณาให้ Yahoo ที่ 18%  นอกจากนี้ยังมีรายได้ที่เข้ามาจากทางแพตลตฟอร์ม mobile อีก 36%
BN-LN179_YAHOO__P_20151201185543

14. Grupo Globo — $4.83 billion (170,837 ล้านบาท)

Grupo Globo เป็นเจ้าของมีเดียที่ใหญ่ที่สุดในบราซิล และเป็นบริษัทมีเดียที่โตไวเป็นอันดับ 3 จากบริษัททั้งหมดในการจัดอันดับของ ZenithOptimedia เพราะรายได้ของ Grupo Globo เติบโตถึง 15% แบบปีต่อปี  ด้วยการเป็นเจ้าของสื่อหนังสือพิมพ์ O Globo, แมกกาซีน 12 หัว, 4 สถานีวิทยุ และเครือข่ายโทรทัศน์ TV Globo
นอกจากนี้ TV Globo ยังถือสิทธ์พื้นที่โฆษณาใน ‘FIFA World Cup 2014′ ทั้งหมด 64 แมทช์การแข่งขัน ทำให้รายได้ของบริษํทโตอย่างก้าวกระโดดแบบปีต่อปี
14-grupo-globo--483-billion-in-media-revenue.jpg

13. Discovery Communications — $6.11 billion (216,110 ล้านบาท)

Discovery เป็นเจ้าของ TV networks มากถึง 14 ช่องในสหรัฐอเมริกา ที่เรารู้จักกันดีคงจะเป็นช่อง Discovery Channel, TLC และ Animal Planet และยังมีเครือข่ายช่องที่เป็น international brands อีก 48 ช่อง ที่สามารถเข้าถึงคนดูที่เป็นสมาชิกกว่า 2.6 พันล้านคนใน 220 ประเทศทั่วโลก  ในปี 2014  48% จากรายได้ทั้งหมดของ Discovery มาจากในสหรัฐฯ และสามารถทำกำไรจากรายได้รวมทั้งหมดได้ถึง 67%
13-discovery-communications--611-billion-in-media-revenue.jpgFacebook/Discovery Channel UK

12. iHeartMedia — $6.12 billion (216,464 ล้านบาท)

iHeartMedia  เป็นเจ้าของ 861 สถานีวิทยุกระจายเสียงที่สามารถเข้าถึงผู้ฟัง 110 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาได้ในแต่ละสัปดาห์ และยังเป็นบริษัทที่จัดการบริหาร display advertising จำนวนกว่า 107,000 ดิสเพลย์ยูนิตในทวีปอเมริกาเหนือ และอีก 540,000 ดิสเพลย์ยูนิตในเอเซีย ออสเตรเลีย และยุโรป
iheartmedia-maitland

11. Advance Publications — $6.42 billion (227,075 ล้านบาท)

Advance Publications เป็นเจ้าของเครือแมกกาซีนเจ้าใหญ่อย่าง Condé Nast Publications ที่มีแมกกาซีนชื่อดังหลายหัวอยู่ในมือ ไม่ว่าจะเป็น Glamour, Vogue, Vanity Fair, GQ และอีกมามาย และยังควบรวมไปถึงธุรกิจหนังสือพิมพ์อย่าง The Plain Dealer และ  The Times-Picayun แถมยังถือหุ้นใน ‘Discovery Communications’ (อันดับที่ 13) อยู่ 31% อีกด้วย

11-advance-publications--642-billion
Photo: Vogue

10. News Corp — $6.86 billion (242,638 ล้านบาท)

News Corp เป็นเจ้าของสื่อหนังสือพิมพ์ชื่อดังอย่าง The Wall Street Journal, The New York Post ในสหรัฐอเมริกา และยังมี The Times กับ The Sun ในสหราชอาณาจักรอีกด้วย ส่วนในเซคชั่นของแมกกาซีน News Corp มี Barron’s magazine 1 หัว และเป็นเจ้าของสำนักพิมพ์ HarperCollins นอกเหนือจากนี้ News Corp ยังทำธุรกิจเกี่ยวการตลาดภายใต้ชื่อบริษัท News America Marketing อีกด้วย
10-news-corp--686-billion-in-media-revenue

9. Baidu — $7.895 billion (279,246 ล้านบาท)

Baidu เป็นบริษัทที่ให้บริการเสิร์ชเอจจิ้นยักษ์ใหญ่ในจีน และยังมีบริการครอบคลุมหลากหลายอย่าง maps, social networking, security, entertainment, ecommerce และ mobile service ซึ่งรายได้หลักของ Baidu นั้นมาจากการขายพื้นที่โฆษณา คิดเป็น 96% ของรายได้ทั้งหมดซึ่ง Baidu สามารถไต่จากอันดับที่ 14 ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 9 ได้ภายในหนึ่งปี
baidu-minwa-supercomputer-artificial-intelligence

8. CBS Corporation — $9.57 billion (338,490 ล้านบาท)

รายได้หลักของ CBS มาจากทีวีและวิทยุซึ่งออกอากาศไปกว่า 200 สถานีในเครือ และยังมีซีรี่ส์เรื่องเด็ดที่ครองใจอเมริกันชนอย่าง “NCIS” และ “Big Bang Theory”  เป็นเจ้าของสถานีวิทยุอีก 117 สถานีในสหรัฐฯ
อีกทั้งยังถือหุ้น 50% ใน The CW Network และร่วมทุนกับ AMC Networks ดันช่องรายการ Horror Channel และ CBS Drama ในสหราชอาณาจักร, ไอร์แลนด์, มิดเดิล อีสท์ และ แอฟริกา
cbs_building_newyork

7. Viacom — $9.61 billion (339,905 ล้านบาท)

Viacom เป็นบริษัทมีเดียที่รันช่องทีวีกว่า 250 ช่องทั่วโลก ซึ่งนั่นรวมไปถึง  MTV, Nickelodeon, Comedy Central, และ Channel 5 ในสหราชอาณาจักร รายได้หลักของบริษัทจึงมาจากโฆษณาทางทีวี
509604312

6. Bertelsmann — $10.04 billion (355,114 ล้านบาท)

Bertelsmann เป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์และวิทยุหลายแห่งรวมถึงถือหุ้น 75.1% ใน RTL ในเซคชั่นสิ่งพิมพ์ Bertelsmann มีสำนักพิมพ์ Penguin Random House และเป็นเจ้าของบริษัทกรุ๊ปแมกกาซีน Gruner + Jahr   บริษัทค่ายเพลง BMG ก็เป็นของ Bertelsmann เช่นกัน
พาดมาถึงฝั่งของบริษัทด้านการตลาด Arvato, บริษัทเกี่ยวกับการศึกษา The Bertelsmann Education Group และ บริษัทที่จัดตั้งเพื่อขยายการลงทุนโดยเฉพาะอย่าง Bertelsmann Investments
ZenithOptimedia รายงานว่ารายได้ของ Bertelsmann เติบโตขึ้น 2.8% ในเดือนธันวาคมของปีที่ผ่านมา
corporate-center-guetersloh_article_landscape_gt_1200_grid

5. Facebook — $11.49 billion (406,401 ล้านบาท)

รายได้ทั้งหมดของ Facebook  เติบโตขึ้นถึง 63% จากปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นผลพวงมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีของโทรศัพท์มือถือและโครงข่ายอินเตอร์เน็ตไร้สายที่เกิดขึ้นพร้อมๆกันทั่วโลก ทำให้อัตราการใช้งาน Facebook จากประชากรโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาไม่กี่ปี
ในไตรมาส 4 ของปี 2013 เป็นครั้งแรกที่รายได้ของ Facebook บนแพลตฟอร์ม mobile โตแซงหน้า desktop และในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2015 กว่า 73% ของรายได้ทั้งหมดใน Facebook มาจากการโฆษณาบน mobile ad
*รายได้รวมของ Facebook ปี 2015 อยู่ที่ 6.29 แสนล้านบาท
Inside The F8 Facebook Developers Conference

4. 21st Century Fox — $18.67 billion (660,357 ล้านบาท)

21st Century Fox เป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Fox Broadcasting, Fox Sports television และ STAR India และยังมีสัดส่วนการถือหุ้น 39% ใน ‘British broadcasting company Sky’ 
ในปี 2015 เฉพาะบริษัทที่ให้บริการ network programming ของ Fox นั้นมีรายได้เพิ่มสูงขึ้น 12.2% คิดเป็นเงิน $13.8 billion หรือราวๆ 4.8 แสนล้านบาท เป็นรายได้ที่มากเป็นเป็นประวัติการณ์ของ Fox
21st_century_fox_logo_new


3. Comcast — $19.72 billion (697,496 ล้านบาท)

88% ของรายได้ Comcast มาจากเครือข่ายเคเบิล NBCUniversal  และฝ่ายออกอากาศรายการโทรทัศน์ ซึ่งในส่วนของเคเบิลนั้นประกอบด้วย  15 เครือข่ายเคเบิลระดับชาติของสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็น USA Network, Syfy, CNBC เป็นต้น
comcast-logo-thumbnail

2. The Walt Disney Company — $22.45 billion (794,056 ล้านบาท)

Disney ถูกนับรวมอยู่ในการจัดอันดับของ ZenithOptimedia ในครั้งนี้ด้วย เพราะในการบริหารงานส่วน media networks and interactive ของ Disney นั้นครอบคลุมไปถึงรายได้จากค่าโฆษณาใน TV shows และเซคชั่นของ Online interctive อย่าง Club Penguin game และ Disney Infinity series 
อันที่จริง Disney’s TV นั้นอยู่ในเครือข่ายโทรทัศน์แห่งชาติ ABC ของสหรัฐฯ ฉายซีรีส์ประจำชาติเรื่องดังอย่าง “Modern Family” และ “Grey’s Anatomy” มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
นอกจากนี้ Disney ยังถือสัดส่วนหุ้น 50% อยู่ใน Fusion (digital media company)  และ 33% ใน Hulu (video streaming platform)
walt

1. Alphabet — $59.62 billion (2.1 ล้านล้านบาท)

Alphabet  เป็นบริษัทแม่ของ Google เสิร์ชเอนจิ้นอันดับ 1 ของโลกซึ่งรายได้หลักมาจากโฆษณาในระบบเสิร์ช (search advertising) และ วิดีโอโฆษณาใน YouTube  เป็นไปตามที่ Eric Schmidt, Alphabet’s executive chairman กล่าวไว้เมื่อไม่นานนี้ว่า ‘โฆษณาจะเป็นพาร์ทธุรกิจที่มีศักยภาพที่สุดของ Google’
ผลกำไรจากการดำเนินธุรกิจของ Google เพิ่มขึ้น 17.4% ในปี 2015 คิดเป็นมูลค่าเท่ากับ $19.4 billion หรือราวๆ 6.8 แสนล้านบาท
Google-Building

 


ความคิดเห็น